พานขันหมาก...วันวิวาห์ (ร้านขนมบ้านคุณย่า เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น..ร้อยคำหวาน 085-095-2997 )
|
พานขันหมาก |
ประเพณีการยกขันหมากสู่ขอนั้นเป็นพิธีมงคลที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการคาราวะผู้ปกครองฝ่ายเจ้าสาว เป็นการบอกกล่าวขออนุญาตที่เจ้าบ่าวจะสู่ขอเจ้าสาวไปเป็นภรรยา
|
พานขันหมากชาววัง |
ประวัติที่มาของพานขันหมากนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย..
สมเด็จพระร่วงเจ้าได้ทรงบัญญัติว่า
ถ้าชาวไทยทำการรับแขกเป็นสนามใหญ่มีการอาวาห์มงคลหรือวิวาห์มงคลแล้ว
ให้ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปพานขันหมาก และให้เรียกว่า “พานขันหมาก”
|
พานเชิญขันหมาก |
เมื่อพูดถึงพานขันหมากเรามักจะนึกถึงพานขันหมาก พานเชิญขันหมาก พานสินสอดทองหมั้น พานแหวน
พานไห้ว พานขนมมงคล9อย่าง พานผลไม้ และพานต้นกล้วย ต้นอ้อย จำนวนของพานขันหมากที่ใช้สำหรับงานแต่งงานในปัจจุบันจะแปรผันตามรูปแบบการจัดขบวน...
|
พานสินสอด |
ลักษณะเด่นของพานขันหมากชาววังจะอยู่ที่ความละเอียด ประณีต มีการวางลวดลายที่วิจิตรงดงาม มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ มีการประดิดประดอยดอกไม้ ซึ่งต้องใช้ความละเอียด และเวลาในการจัดทำสูงกว่าพานขันหมากแบบปกติ
|
จัดเรียงสินสอดใส่พาน |
การจัดขันหมากฝีมือชาววังที่นิยมทำกันนั้นมี 2 แบบ คือ แบบใช้พลูจีบ กับแบบที่ไม่ใช้พลูจีบ ซึ่งทั้ง 2 แบบจะใส่หมากพลูเป็นจำนวนคู่ อย่าง คู่ 4 หรือ คู่ 8 นำมาจัดเรียงให้สวยงาม สาเหตุที่ต้องมีการใส่หมากพลูลงไปในพานขันหมากก็เพราะในสมัยก่อนนิยมกินหมาก จึงมีการใช้หมากพลูเป็นเครื่องต้อนรับเพื่อแสดงไมตรีจิต เวลาแขกมาเยือนก็ยกเชี่ยนหมากมารับรอง ซึ่งหมายถึง ยินดีต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยไมตรีจิต ด้วยเหตุนี้ เมื่อจะไปสู่ขอหรือแต่งงานกับลูกสาวใคร ซึ่งเป็นคนต่างบ้านต่างถิ่น แม้จะมีของอย่างอื่น แต่ก็ต้องมีหมากพลูไปคำนับเพื่อแสดงไมตรีจิตด้วย
|
พานเทียนแพ(พานไห้ว) |
|
พานขนมมงคล |
ดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในพานขันหมากได้แก่ ดอกรัก หมายถึง ให้มีความรักที่เหนียวแน่น ดอกบานไม่รู้โรย หมายถึง ความรักที่ยืนยง ไม่จืดจาง และดอกดาวเรือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองสำหรับคู่บ่าวสาว ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ต้องมีบนพาน คือ หมากพลู ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ข้าวเปลือก งา ถั่วเขียว ถั่งทอง ถุงเงิน ถุงทอง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมาย อย่างข้าวเปลือกให้ไว้เป็นพันธุ์ข้าวสำหรับเป็นทุนเริ่มชีวิตครอบครัว เพราะแต่เดิมชาวไทยทำกสิกรรมปลูกข้าวเป็นหลัก หนุ่มสาวที่แต่งงานใหม่เมื่อต้องมีเหย้ามีเรือนแยกไปจากพ่อแม่ จึงต้องมีการปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ที่เป็นอาหารอันจำเป็นต่อการยังชีพในอนาคต ส่วนขนมมงคลต่าง ๆ อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก หมายถึงการหยิบเงินหยิบทองให้ร่ำรวยในชีวิตคู่ ส่วนขนมจ่ามงกุฎ เป็นการเสริมให้มียศตำแหน่งในหน้าที่การงาน ขนมชั้น หมายถึง ความสามัคคี มั่นคง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคู่บ่าวสาว ขนมเสน่ห์จันทร์ ให้มีความหลงรักซึ่งกันและกันไม่เสื่อมคลาย ขนมกง หมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด และขนมลูกชุบ หมายถึงการมีลูกมีหลาน สำหรับพานต้นกล้วย ต้นอ้อย จะเป็นการให้บ่าวสาวนำกล้วยอ้อยดังกล่าวไปปลูกร่วมกัน
อาจเป็นการทำนายอย่างหนึ่ง ถ้าหากบ่าวสาวปลูกได้เจริญงอกงาม
ก็จะบ่งบอกถึงความรักที่สมบูรณ์ มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง
|
พานขนมมงคล |
|
|
เมื่อ พูดถึงพานขันหมาก เรามักจะนึกถึง พานขันหมาก พานเชิญขันหมาก พานสินสอดทองหมั้น พานแหวน พานไห้ว พานขนมมงคล9อย่าง พานผลไม้ และพานต้นกล้วย ต้นอ้อย (แล้วแต่ท้องที่ บางที่ก็จะใช้ทั้งต้นโดยไม่ใส่พาน) จำนวนของพานขันหมากที่ใช้สำหรับงานแต่งงานในปัจจุบันจะแปรผันตามรูปแบบการจัดขบวน...
ลักษณะเด่นของพานขันหมากชาววังจะอยู่ที่ความละเอียด ประณีต มีการวางลวดลายที่วิจิตรงดงาม มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ มีการประดิดประดอยดอกไม้ ซึ่งต้องใช้ความละเอียด และเวลาในการจัดทำสูงกว่าพานขันหมากแบบปกติ
|
มาลัยบ่าว-สาว |
การจัดขันหมากฝีมือชาววังที่นิยมทำกันนั้นมี 2 แบบ คือ แบบใช้พลูจีบ กับแบบที่ไม่ใช้พลูจีบ ซึ่ง ทั้ง 2 แบบจะใส่หมากพลูเป็นจำนวนคู่ อย่าง คู่ 4 หรือ คู่ 8 นำมาจัดเรียงให้สวยงาม สาเหตุที่ต้องมีการใส่หมากพลูลงไปในพานขันหมากก็เพราะในสมัยก่อนนิยมกินหมาก จึงมีการใช้หมากพลูเป็นเครื่องต้อนรับเพื่อแสดงไมตรีจิต เวลาแขกมาเยือนก็ยกเชี่ยนหมากมารับรอง ซึ่งหมายถึง ยินดีต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยไมตรีจิต ด้วยเหตุนี้ เมื่อจะไปสู่ขอหรือแต่งงานกับลูกสาวใคร ซึ่งเป็นคนต่างบ้านต่างถิ่น แม้จะมีของอย่างอื่น แต่ก็ต้องมีหมากพลูไปคำนับเพื่อแสดงไมตรีจิตด้วย
|
โรยข้าวตรอกดอกไม้(สินสอด) |
ดอกไม้ ที่ขาดไม่ได้ในพานขันหมากได้แก่ ดอกรัก หมายถึง ให้มีความรักที่เหนียวแน่น ดอกบานไม่รู้โรย หมายถึง ความรักที่ยืนยง ไม่จืดจาง และดอกดาวเรือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองสำหรับคู่บ่าวสาว ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ต้องมีบนพาน คือ หมากพลู ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ข้าวเปลือก งา ถั่วเขียว ถั่งทอง ถุงเงิน ถุงทอง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมาย อย่างข้าวเปลือกให้ไว้เป็นพันธุ์ข้าวสำหรับเป็นทุนเริ่มชีวิตครอบครัว เพราะแต่เดิมชาวไทยทำกสิกรรมปลูกข้าวเป็นหลัก หนุ่มสาวที่แต่งงานใหม่เมื่อต้องมีเหย้ามีเรือนแยกไปจากพ่อแม่ จึงต้องมีการปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกผล ไม้ ที่เป็นอาหารอันจำเป็นต่อการยังชีพในอนาคต ส่วนขนมมงคลต่าง ๆ อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก หมายถึงการหยิบเงินหยิบทองให้ร่ำรวยในชีวิตคู่ ส่วนขนมจ่ามงกุฎ เป็นการเสริมให้มียศตำแหน่งในหน้าที่การงาน ขนมชั้น หมายถึง ความสามัคคี มั่นคง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคู่บ่าวสาว ขนมเสน่ห์จันทร์ ให้มีความหลงรักซึ่งกันและกันไม่เสื่อมคลาย ขนมกง หมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด และขนมลูกชุบ หมายถึงการมีลูกมีหลาน สำหรับพานต้นกล้วย ต้นอ้อย จะเป็นการให้บ่าวสาวนำกล้วยอ้อยดังกล่าวไปปลูกร่วมกัน อาจเป็นการทำนายอย่างหนึ่ง ถ้าหากบ่าวสาวปลูกได้เจริญงอกงาม ก็จะบ่งบอกถึงความรักที่สมบูรณ์ มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง
การจัดพานขันหมากชาววังจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยสร้างความประทับใจในพิธีมงคลสมรสอย่างมิรู้ลืม.... |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
+ Emotion +
ver. 0.99
รหัสส่งข้อความ
กรุณายืนยันรหัสส่งข้อความ